วุ่นทั้งเมืองไล่จับคนร้ายขโมยรถลักรถ ที่แท้ผัวขโมยกระบะเมียเอาไปรับกิ๊ก นัดหย่าไม่ยอมให้คืน

 เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองศรีราชา ว่ามีเหตุลักรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 731 ปราจีนบุรี ภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว โดยคนร้ายขับย้อนฝ่าแผงกั้นรถฝั่งขาเข้าที่จอดรถของห้างสรรพสินค้า ชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนหนีออกไปบนถนนสุขุมวิท ให้ช่วยวิทยุสกัดจับคนร้ายด้วย

 โดยเมื่อทราบเหตุ ร.ต.อ.ชัยณรงค์ จิตสุนทร รอง สารวัตรจราจร สภ.ศรีราชา ได้วิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่อยู่ในบริเวณนั้นสกัดจับ จนทราบว่าคนร้ายได้ขับรถเข้าไปในซอยข้างร้านกาแฟริมถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นทางตันเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถสกัดจับไว้ได้ เนื่องจากเลยซอยที่จับกุมตัวได้ อีกประมาณ 100 เมตร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ศรีราชา ตั้งด่านตรวจวินัยจราจรอยู่ จึงทำให้คนร้ายหักรถเลี้ยวเข้าซอยตัน จึงจนมุมดังกล่าว ก่อนนำมาสอบสวนที่ สภ.ศรีราชา ทราบชื่อต่อมาคือนายชาตรี วงษ์ชารี อายุ 36 ปี ส่วนผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถและเป็นคนแจ้ง ทราบชื่อคือ น.ส.น้ำผึ้ง เทียมสกุล อายุ 27 ปี เดินทางติดตามที่ที่ สภ.ศรีราชาด้วย

 เมื่อเห็นหน้ากัน น.ส.น้ำผึ้ง ได้ต่อว่านายชาตรีอย่างดุเดือด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องห้ามปรามเอาไว้ เกรงจะมีเหตุทำร้ายร่างกายกันอีก จนทราบว่าทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน โดยน.ส.น้ำผึ้งแจ้งว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วนนายชาตรีได้แต่ร่ำไห้ว่าโดนกลั่นแกล้ง พร้อมทั้งก้มลงกราบขออภัยทุกๆ คนกับการกระทำของตนเอง และขอโทษรปภ.ที่ตนขับรถเฉี่ยวได้รับบาดเจ็บด้วย



 จากการสอบถาม น.ส.น้ำผึ้ง เปิดเผยว่า คนที่ก่อเหตุคือนายชาตรีเป็นสามีตน มีลูกด้วยกันสองคน โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา นายชาตรีได้ไปหาตนที่บ้าน ที่จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ตนนอนหลับ แอบขโมยขับรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ คันเกิดเหตุของตนหลบหนีออกมา เมื่อตนทราบจึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอนแก่นไว้ และติดตามมาหารถของตนทราบว่านายชาตรีเอารถไปใช้กับเมียน้อยที่อยู่ในอำเภอศรีราชา จนกระทั่งสามารถติดต่อนายชาตรีได้ จึงนัดกันมาหย่าที่อำเภอศรีราชาตั้งแต่เวลา 11.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 15.30 น. นายชาตรีจึงนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างมา และเจรจาตกลงกันแต่ไม่ได้ข้อสรุป โดยนายชาตรีจะเอารถไว้ใช้ แต่ตนซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของรถไม่ยอม นายชาตรีจึงนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับ ส่วนตนก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ตามไปที่ห้างสรรพสินค้า

 หลังจากนั้นตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ช่วยติดตามรถยนต์คันดังกล่าวของตนว่า มีคนขโมยรถของตนในห้างแห่งนี้ เจ้าหน้าที่จึงประสานวิทยุช่วยกันตรวจสอบ จนพบนายชาตรีกำลังขับรถอยู่บนลานจอนรถของห้าง จึงเรียกให้จอดแต่นายชาตรีไม่จอดขับรถหลบหนีอย่างรวดเร็ว และขับรถย้อนศร ฝ่าเหล็กกั้น ตรงประตูทางเข้าห้าง ทำให้ผู้ที่ขับรถจะเข้าห้างต้องขับรถหลบกันอย่างจ้าหล่ะหวั่น จนน.ส.วรรณทิพย์ ทิพย์วารี อายุ 25 ปี ที่เป็น รปภ.อยู่ทางเข้า กระโดดเข้าขวาง แต่นายชาตรีไม่จอดแถมจะขับรถชน ทำให้น.ส.วรรณทิพย์ต้องกระโดดหลบ และปากรวยกั้นรถใส่ ทำให้รถที่นายชาตรีขับเฉี่ยวน.ส.วรรณทิพย์ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหนีออกไปจนมุมในซอยตันริมถนนสุขุมวิทดังกล่าว

 หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้คู่กรณีทั้งหมดไปบันทึกประจำวันและร้อยเวรสอบสวน พร้อมทั้งตั้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้นว่า ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนเรื่องลักรถนั้นให้ทั้งสองคนเจรจาตกลงกันเองว่าจะลงเอยกันอย่างไรต่อไป


                     


http://www.khaosod.co.th/view